แกงฮังเล เรื่องราวของอาหารที่เป็นสัญลักษณ์
แกงฮังเล เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคเหนือของประเทศไทย มีรสชาติเค็มเปรี้ยวและมีรสเผ็ดตาม แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ แกงฮังเลม่าน และแกงฮังเลเชียงแสน ส่วนผสมหลักๆ มักจะประกอบด้วยเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู หรือเนื้อไก่ รวมถึงเครื่องปรุงรสที่หลากหลาย เช่น พริกแห้ง เกลือ กะปิ หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ และผงฮังเล หรือผงมัสล่า เป็นต้น แกงฮังเลเชียงแสน มีการนำผักพื้นบ้านตามฤดูกาลมาเพิ่มในส่วนผสมเพิ่มเติมอาจมีผักพื้นบ้านเข้ามา เช่น ถั่วฝักยาว มะเขือยาว มะเขือพวง ใบชะพลู หน่อไม้ดอง เป็นต้น
ประวัติของแกงฮังเล
ประวัติแกงฮังเลเริ่มต้นจากแรงบันดาลใจทางวัฒนธรรมที่มาจากประเทศพม่า โดยมีข้อสันนิษฐานว่ามีต้นกำเนิดมาจากเมืองแวะตาฮีนของพม่า ชื่อว่า “แวะตา” หมายถึง เนื้อหมู และ “ฮีน” แปลว่า แกง ซึ่งหมายถึง แกงที่ทำจากเนื้อหมู และหากใช้เนื้อวัวจะเรียกว่า “อะแมตาฮีน” นับเป็นเมนูเฉพาะของชาวล้านนา
ความสัมพันธ์ระหว่างชาวพม่าและชาวล้านนาที่มีการค้าขายแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและอาหารกันเอง ได้เป็นตัวเริ่มต้นให้แกงฮังเลเกิดขึ้น โดยมีการนำเอาวัฒนธรรมและอาหารของทั้งสองพื้นที่มาผสมผสานกัน ซึ่งเมื่อถึงพื้นที่ของชาวล้านนาแล้ว แกงฮังเลได้รับความนิยมและการรับรองจากประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ของภูมิภาคเหนือของประเทศไทย
การทำและการบริโภคแกงฮังเลได้รับความนิยมและแพร่หลายอย่างกว้างขวางในชุมชนต่าง ๆ ของภูมิภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่ของแม่ฮ่องสอนและอำเภอแม่สอด และหลายจังหวัดอื่น ๆ ที่ประชาชนมีความสนใจและความรักในอาหารแกงฮังเลนี้อย่างมาก
แกงฮังเลเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ทางอาหารของเชียงใหม่และภูมิภาคเหนือ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นอาหารอร่อยที่ถือเป็นความภูมิใจของชาวเชียงใหม่ แต่ยังเป็นเครื่องรางสำคัญในการสร้างเสน่ห์และเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมและท้องถิ่นในภูมิภาคเหนือของประเทศไทย
ส่วนผสมแกงฮังเล
ส่วนประกอบของแกงฮังเล มักประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู หรือเนื้อไก่ รวมถึงเครื่องปรุงรสที่หลากหลาย เช่น พริกแห้ง เกลือ กะปิ หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ และผงฮังเล หรือผงมัสล่า ส่วนผสมเพิ่มเติมอาจมีผักพื้นบ้าน เช่น ถั่วฝักยาว มะเขือยาว มะเขือพวง ใบชะพลู หน่อไม้ดอง เป็นต้น
การทำแกงฮังเล เริ่มต้นด้วยการโขลกพริกและเครื่องปรุงรสอื่นๆ จนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำเนื้อสัตว์มาหมักกับเครื่องปรุงรสที่เตรียมไว้ และนำไปต้มคว่ำจนสุก จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลอ้อย น้ำปลา และเครื่องปรุงอื่นๆ ตามชอบ เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและเปรี้ยว-หวาน สุดท้ายก็เติมส่วนผสมเพิ่มเติม เช่น กระเทียมดอง และขิงซอย เพื่อเพิ่มความหอมหวานและรสชาติเปรี้ยวของแกงฮังเล
ลำดับขั้นตอนการทำอย่างละเอียด
สูตรแกงฮังเล:
ส่วนผสม น้ำพริกแกงฮังเล:
- พริกแห้งเม็ดเล็ก 5-10 เม็ด (ตามชอบ)
- เกลือป่น 1/4 ช้อนโต๊ะ
- พริกแห้งเม็ดใหญ่ (แช่น้ำจนนิ่ม หั่นเป็นชิ้นเล็ก) 1 ถ้วย
- กระเทียมไทย 20 กลีบ
- หอมแดงปอกเปลือก 10 หัว
- ข่าซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้ซอย 2 ต้น
- ขมิ้น 1 ชิ้น
ส่วนผสม แกงฮังเล:
- หมูสามชั้นผสมซี่โครงหมู 2 กิโลกรัม
- ผงฮังเล 2 ห่อ
- น้ำกระเทียมดอง
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิสงคั่ว ตามชอบ
- น้ำตาลทรายแดง 80-100 กรัม
- กระเทียมดอง
- ขิงซอย
วิธีทำพริกแกงฮังเล:
- โขลกพริกกับเกลือจนละเอียด ตามด้วยกระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ และขมิ้น โขลกจนละเอียด เตรียมไว้
วิธีทำแกงฮังเล:
- นำหมูสามชั้นผสมซี่โครงหมูใส่อ่างผสม ใส่พริกแกงลงไป ตามด้วยผงฮังเล นวดให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
- พอครบเวลานำหมูไปรวนในหม้อพอสุก เติมน้ำเปล่าลงไปพอท่วม
- ปรุงรสด้วยน้ำกระเทียมดอง น้ำปลา ซีอิ๊วดำ น้ำมะขามเปียก และถั่วคั่ว เคี่ยวด้วยไฟกลางค่อนไปทางอ่อนประมาณ 1 ชั่วโมง
- พอครบเวลาเติมน้ำตาลทราย เคี่ยวต่ออีก 2 ชั่วโมง
- พอครบเวลาใส่กระเทียมดองกับขิงซอย คลุกเคล้าพอเข้ากัน ปิดไฟ
แกงฮังเลเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียว จะทำให้การทานกลมกล่อมและอร่อยมากยิ่งขึ้น
Gordon Ramsay คือเชฟโลกชื่อดังที่มีความชื่นชอบในอาหารไทย โดยเฉพาะแกงฮังเล ซึ่งเขาได้กล่าวถึงว่าเป็นเมนูที่ชอบที่สุดของเขาในประเทศไทย เมื่อเขามีโอกาสไปสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารในภูมิภาคเหนือของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงการถ่ายทำรายการทีวีของเขา Gordon Ramsay’s Great Escape ซึ่งเป็นเครื่องรางยอดนิยมที่แสดงถึงความชื่นชอบของเขาต่ออาหารไทย
รวม 7 ร้านอาหารเหนือรสเด็ด ที่ต้องลองไปชิม
เรื่องราวของแกงฮังเลที่เชียงใหม่ไม่เพียงแค่อาหารที่อร่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต่างหลงรักอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์สำเนียงเหนือ ทิวทัศน์ที่งดงาม หรืออากาศที่เย็นสบายในทุกฤดูกาล เชียงใหม่มีสิ่งมากมายที่น่าสนใจและมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคน
การตื่นตาตื่นใจกับเมนูอาหารเชียงใหม่ 101 ที่น่าลองไปลิ้มลองใช้ อาทิเช่น ข้าวซอย ไส้อั่ว และน้ำพริกหนุ่ม เพื่อสัมผัสรสชาติแบบเมืองซึ่งเป็นที่รู้จักของคนท้องถิ่น หรือจะสัมผัสกับความหลากหลายของอาหารแบบเมืองแต๊ ๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารไตและพม่า ทั้งจิ๊นควายตุ๊บ แอ๊บผึ้ง และอื่น ๆ อีกมากมาย
ดังนั้น นี่คือ 10 ร้านเด็ดในเชียงใหม่ที่คุณควรไปลองเมื่อคุณอยู่ที่นี่:
1. กิติพานิช
ในการเปลี่ยนแปลงตึกเก่าแก่จากยุค ค.ศ. 1880 เป็นร้านอาหารล้านนาที่มีเสน่ห์, ทายาทของตึกได้ให้ความไว้วางใจเชฟอ้อมและเชฟเปเปอร์จากร้านสวรรค์ให้มาเป็นผู้ออกแบบเมนูอาหารและขนม. การรังสรรค์เมนูที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงการเลือกวัตถุดิบชั้นเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดำรงรักษาความเป็นมาและวัฒนธรรมของอาหารล้านนาด้วย.
เมื่อเยือนร้านนี้, อย่าลืมที่จะสั่งแกงฮังเลที่มีรสเข้มข้นและกลมกล่อม, เสิร์ฟคู่กับสลัดผักชีแบบไทใหญ่และไก่ย่างเนื้อนุ่ม ที่เตรียมและปรุงด้วยวิธีการที่ตระหนักถึงความละเอียดอ่อนของรสชาติ. แม้ว่าคุณจะรู้สึกอิ่มแล้วก็ตาม, การเผื่อท้องสำหรับของหวานก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรลืม เพราะที่นี่ยังมีข้าวเม่าทอดราดกะทิที่หาทานได้ยาก, เป็นของหวานที่เปี่ยมด้วยวัฒนธรรมและความประณีตในการเสิร์ฟ.
ที่อยู่ของร้านอยู่ที่ 19 ถนนท่าแพ, ตำบลช้างคลาน, อำเภอเมืองเชียงใหม่, จังหวัดเชียงใหม่. สามารถติดต่อสำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08 8949 7996.
การเยี่ยมชมร้านนี้ไม่เพียงแต่เป็นการลิ้มลองอาหารเลิศรสเท่านั้น แต่ยังเป็นการสัมผัสกับเรื่องราวและวัฒนธรรมของชาวล้านนาผ่านทางจานอาหารที่คุณจะได้ลิ้มลอง.
2. ครัวเพชรดอยงาม (ครัวเมืองคลาสสิค)
ร้านครัวเพชรดอยงาม (ครัวเมืองคลาสสิค) เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่รักการสัมผัสกับอาหารเหนือแท้ๆ ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมล้านนา. ร้านตั้งอยู่ท่ามกลางการตกแต่งที่โอบล้อมด้วยความเป็นธรรมชาติ, มีลมพัดเย็นสบาย, และโคมไฟสีทองแบบคลาสสิกที่เพิ่มความอบอุ่นให้กับบรรยากาศภายในร้าน.
เมนูอาหารที่นี่คือการผสานระหว่างศิลปะการปรุงอาหารกับวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างประณีต. จานเด่นอย่างปลาหลามเป็นตัวอย่างของการใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นมาสร้างสรรค์เป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์; ปลาที่เลือกมาอย่างดีถูกหมักด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศ, ยัดใส่กระบอกไม้ไผ่แล้วนำไปเผาจนได้กลิ่นหอมของควันไฟที่ชวนให้น้ำลายสอ. อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือผักเชียงดาผัดไข่, ซึ่งเพิ่มความสดใหม่ด้วยมะเขือเทศราชินีและหอมแดงชูรสที่เข้ากันอย่างลงตัว.
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ 267/1 หมู่ 2 ถนนมหิดล, ตำบลป่าแดด, อำเภอเมืองเชียงใหม่, จังหวัดเชียงใหม่. หากต้องการสำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม, โปรดติดต่อที่เบอร์โทรศัพท์ 053 204 517.
การมาเยือนร้านครัวเพชรดอยงามเป็นโอกาสที่จะได้ลิ้มรสอาหารเหนือที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมและความพิถีพิถันในการประกอบอาหาร, ทำให้ทุกจานที่นี่มีมากกว่าความอร่อยแต่ยังมีเรื่องราวให้ค้นหา.
3. ลำดีตี้ขัวแดง
ร้าน “ลำดีตี้ขัวแดง” เป็นร้านอาหารที่ไม่เพียงแต่เสิร์ฟอาหารเหนือรสเข้มข้นที่แท้จริงเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์และเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง. ชื่อของร้าน “ลำดีตี้ขัวแดง” ในภาษาเหนือหมายถึง “อร่อยดีที่สะพานแดง” ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงสะพานโกลเดนเกตจำลองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ใกล้กับร้านและประดับประดาด้วยไฟที่ส่องสว่างในยามค่ำคืน, สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมสำหรับผู้มาเยือน.
ที่ร้านนี้, คุณจะได้ลิ้มลองอาหารพื้นถิ่นที่มีเอกลักษณ์ ทั้งน้ำพริกหนุ่มแนมผักสดและผักต้มที่ลูกค้าสามารถเลือกตักได้ไม่จำกัด, แกงฮังเลที่เต็มไปด้วยรสชาติของเครื่องเทศแบบเหนือ, และจิ๊นแซ่บขัวแดงซึ่งเป็นเมนูที่มีชื่อเสียงว่าอร่อยเป็นพิเศษ. อาหารทุกจานที่นี่รังสรรค์ขึ้นด้วยความใส่ใจและประณีต, เพื่อรักษามาตรฐานของรสชาติอาหารเหนือแท้ๆ.
ร้านตั้งอยู่ใน โครงการวีคอมมูนิตี้ที่ 345/9 หมู่ 3 ถนนวงแหวนรอบ 2 ตำบลสันพระเนตร อำเภอสันทราย เชียงใหม่. สามารถติดต่อสำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08 6688 3688.
การมาที่ร้านนี้ไม่เพียงแต่ได้พบกับอาหารที่เลิศรสเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศอันอบอุ่นและเรื่องราวที่ตราตรึงใจ ซึ่งจะทำให้ทุกการเยือนเป็นประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลือน.
4. ฮ้านถึงเจียงใหม่
ร้าน “ฮ้านถึงเจียงใหม่” เป็นจุดหมายที่ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวจากทุกหนแห่งให้ความสนใจอย่างมาก ด้วยความที่ร้านได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์ จากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นการการันตีถึงคุณภาพและรสชาติของอาหารที่นี่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษ. ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ร้านนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องของอาหารเมืองตำรับพื้นบ้านที่รังสรรค์ออกมาอย่างประณีตและรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารเหนือได้อย่างยอดเยี่ยม.
หนึ่งในเมนูที่ได้รับการแนะนำอย่างยิ่งคือ “จิ๊นนึ่งน้ำพริกข่า” ซึ่งเป็นการนำเนื้อที่ปรุงรสได้อย่างลงตัวมานึ่งจนนุ่มพอดี และเสิร์ฟพร้อมกับน้ำพริกข่าที่มีกลิ่นหอมเย้ายวนใจ รสชาติเผ็ดเค็มกลมกล่อมถึงเครื่อง ทำให้จานนี้เป็นที่โปรดปรานของลูกค้าหลายคน. นอกจากนี้ยังมีเมนูประจำฤดูกาลที่ไม่ควรพลาด เช่น “เห็ดลม” ซึ่งเป็นวัตถุดิบพื้นเมืองที่หาได้ยากและมีให้บริการเฉพาะเมื่อถึงฤดูกาลเท่านั้น.
ด้วยการเปิดบริการมากว่าทศวรรษและมีลูกค้าแน่นทุกวันทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยว, ร้านฮ้านถึงเจียงใหม่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเป็นอย่างดีในเรื่องของความอร่อยและราคาที่คุ้มค่า. บรรยากาศในร้านที่เป็นกันเองและมีความรู้สึกเหมือนได้กลับมาทานอาหารที่บ้านทำให้ลูกค้าต่างรู้สึกผูกพันและกลับมาเยือนซ้ำๆ.
ร้านตั้งอยู่ที่ 63/9 ซอยสุเทพ 4 ถนนสุเทพ, ตำบลสุเทพ, อำเภอเมืองเชียงใหม่, เชียงใหม่. หากต้องการสำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม, สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 09 1076 6100.
การมาที่ร้านฮ้านถึงเจียงใหม่จึงไม่เพียงแต่เป็นการทานอาหารเยี่ยมชมเท่านั้น แต่ยังเป็นการสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่หาจากที่อื่นไม่ได้.
5.เฮือนม่วนใจ๋
“เฮือนม่วนใจ๋” หรือ “บ้านแสนสุข” ในสไตล์ล้านนาที่รายล้อมไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้, เป็นร้านอาหารที่ได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์ จากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประจำปี 2565 และได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเองและอาหารเมืองต้นตำรับราคาเป็นมิตร, ร้านนี้ได้กลายเป็นที่โปรดปรานของลูกค้าประจำที่แวะเวียนมาชิมความอร่อยอย่างไม่ขาดสาย.
เชฟจรัญ ธิพึ่ง, ผู้มีฝีมือในการปรุงอาหาร, เป็นผู้คัดเลือกและรังสรรค์เมนูดั้งเดิมที่หากินยากมานำเสนอในร้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูยอดนิยมที่ลูกค้าทุกคนไม่ควรพลาด เช่น “ออร์เดิร์ฟเมือง” ที่รวมเอาน้ำพริกหนุ่ม, น้ำพริกอ่อง, แกงฮังเล, ไส้อั่ว, ซี่โครงหมูทอด, และผักนึ่งไว้ด้วยกัน. อีกหนึ่งเมนูที่แนะนำและไม่ควรพลาดคือ “ลาบหมูคั่ว” ที่จะทำให้คุณได้กลิ่นหอมๆ และรสชาติเข้มข้นที่จะหลงใหล.
ร้านเฮือนม่วนใจ๋ตั้งอยู่ที่ 24 ถนนราชพฤกษ์, ตำบลช้างเผือก, อำเภอเมืองเชียงใหม่, เชียงใหม่. สำหรับการสำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์มาที่ 05 3404 998.
การเยือนร้านอาหารนี้ไม่เพียงแต่จะได้พบกับอาหารที่อร่อยเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบและเป็นมิตร, ทำให้ทุกครั้งที่มาเยือนเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ.
6.เฮือนสุนทรี
เฮือนสุนทรี เป็นสถานที่ที่ไม่เพียงแต่เป็นร้านอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมและศิลปะการดำเนินชีวิตของชาวเหนือได้อย่างลงตัว. ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง, ร้านนี้เป็นการสร้างสรรค์ของศิลปินหญิงชื่อดัง, สุนทรี เวชานนท์, ที่ใช้พื้นที่บ้านของเธอเปิดเป็นร้านอาหารและยังเป็นเจ้าภาพร้องเพลงเพื่อขับกล่อมแขกที่มาเยือนในทุกค่ำคืน.
ร้านเฮือนสุนทรี ได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์ จากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประจำปี 2565 ด้วยการเสิร์ฟอาหารเมืองล้านนาที่เน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่สดใหม่. หนึ่งในเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ “ออร์เดิร์ฟเมือง” ซึ่งประกอบด้วยของกินเล่นหลากหลายที่เตรียมจานเดียวกัน นอกจากนี้ยังมี “ปลาช่อนไร้ก้าง” ที่เตรียมอย่างพิถีพิถันโดยนำปลาช่อนทั้งตัวไปนึ่งเพื่อเลาะก้างออก จากนั้นยัดไส้ด้วยเนื้อหมูและปู และนำไปทอดจนกรอบนอกนุ่มใน จับคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซบที่เข้ากันอย่างลงตัว.
ร้านนี้สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 350 คน ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการจัดงานเลี้ยงหรือการรวมกลุ่มในโอกาสพิเศษ.
ร้านตั้งอยู่ที่ 208 ถนนป่าตัน, ตำบลป่าตัน, อำเภอเมืองเชียงใหม่, เชียงใหม่. หากต้องการสำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08 3860 8196.
เฮือนสุนทรีไม่เพียงแต่เป็นที่ที่คุณจะได้ลิ้มลองอาหารที่อร่อยเลิศ แต่ยังได้สัมผัสกับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและความงดงามของเสียงเพลงที่จะทำให้ทุกค่ำคืนที่นี่มีความพิเศษยิ่งขึ้น.
7.กิ๋นลำกิ๋นดี
ร้าน “กิ๋นลำกิ๋นดี” เป็นสถานที่ที่ทุกคนที่หลงใหลในอาหารเหนือตำรับดั้งเดิมไม่ควรพลาด โดยชื่อของร้านเป็นการสะท้อนถึงคุณภาพของอาหารที่เสิร์ฟ—”กินอร่อย กินดี” จริงๆ จากที่เคยตั้งอยู่ในตัวเมือง เนื่องจากความนิยมที่เพิ่มขึ้น ร้านจึงย้ายไปยังอำเภอสันทราย เพื่อให้บรรยากาศเป็นส่วนตัวและเงียบสงบมากขึ้น ล้อมรอบด้วยทุ่งนาและต้นไม้ที่เขียวขจี ทำให้ทุกการรับประทานเป็นไปอย่างผ่อนคลาย.
การตกแต่งร้านผสมผสานสไตล์ความเป็นคนเมืองเข้ากับบรรยากาศของชนบทได้อย่างลงตัว ใช้เครื่องปรุงที่สดใหม่ เกือบทั้งหมดมาจากสวนผักของร้านเอง ซึ่งปลูกและดูแลด้วยมือเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่ดีที่สุด. เมนูแนะนำของร้านคือ “ปูอ่อง” แสนอร่อยทำจากปูนาและ “แกงอ่อมหมู” ที่มีรสชาติกลมกล่อมจากเครื่องเทศและสมุนไพรท้องถิ่น.
สำหรับผู้ที่มองหาการเริ่มต้นค่ำคืนให้เต็มไปด้วยความมีสไตล์และรสชาติของอาหารล้านนาแท้ๆ ร้านกิ๋นลำกิ๋นดีมีทุกอย่างที่ต้องการ.
ร้านตั้งอยู่ที่ 172 ม.3 ตำบลเมืองเล็น, อำเภอสันทราย, เชียงใหม่. สามารถติดต่อสำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08 2656 3941. การเยือนร้านนี้จะทำให้คุณได้พบกับอาหารที่อุดมไปด้วยรสนิยมและการต้อนรับที่อบอุ่นในทุกๆ มื้อ.